โอ้โห สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในพรีเมียร์ลีกคือแบบเดือด ดราม่าร้อนแรง เผ็ดมันส์จนหยุดดูไม่ได้เลย และนี่ก็คือ 33 ประเด็นแซ่บ ๆ จากพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีเรื่องราวน่าสนใจอีกมากมายรอให้ติดตามกันในช่วงต่อ ๆ ไป สำหรับแฟนบอลคนไหนที่ไม่อยากพลาดความสนุกสนาน เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาเชียร์กันแบบสุดมันส์กันได้เลย
3 ประเด็นร้อนจากสุดสัปดาห์ในพรีเมียร์ลีก ดราม่าร้อนแรง เผ็ดมันส์จนหยุดดูไม่ได้เลย
อาร์เซนอลและลิเวอร์พูลกลับมาคืนฟอร์มในลีกหลังจากตกรอบบอลยุโรปและแพ้คาบ้านในพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทั้ง 2 ทีมแซงหน้าแมนเชสเตอร์ซิตี้กลับขึ้นมานำจ่าฝูงอีกครั้ง
“ปืนใหญ่” (อาร์เซนอล) ขึ้นนำจ่าฝูงหลังจากชนะวูลฟ์ส 2-0 ขณะที่ลิเวอร์พูลไล่ตามมาจนมีคะแนนเท่ากับจ่าฝูง ด้วยการเอาชนะฟูลัม 3-1 ด้วยทีมสำรอง เอฟเวอร์ตันเป็นทีมที่เก็บชัยชนะสำคัญในสุดสัปดาห์นี้ พวกเขาเอาชนะน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 2-0 อย่างถกเถียง ช่วยให้เอฟเวอร์ตันหนีห่างโซนตกชั้นไป 5 แต้ม รายงานจาก ‘เอเอฟพี สปอร์ต’ จะพาไปดู 3 ประเด็นที่น่าสนใจจากพรีเมียร์ลีกประจำสัปดาห์”
ประเด็นที่ 1 อาร์เซนอลและลิเวอร์พูลกดดันคู่แข่งด้วยสกอร์
แมนฯ ซิตี้ไม่ได้ลงเตะในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่พวกเขาเอาชนะเชลซี 1-0 ส่งผลให้พวกเขาเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน พบกับแมนฯ ยูไนเต็ด ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังคงมีโอกาสคว้าแชมป์ลีกอยู่ในมือ แต่พวกเขาอาจตามหลังจ่าฝูงถึง 4 คะแนน เมื่อพวกเขาลงสนามอีกครั้งที่ไบรท์ตันในวันพฤหัสบดีนี้
อาร์เซนอล เตรียมเปิดบ้านรับ เชลซี ในวันอังคาร ขณะที่ ลิเวอร์พูล เตรียมดวล เอฟเวอร์ตัน ในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ค่ำวันพุธ สัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากและน่าผิดหวังสำหรับทั้งคู่แข่งแชมป์ของแมนซิตี้ แต่ อาร์เซนอล แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นด้วยการเก็บคลีนชีต 6 นัดติดต่อกันในเกมลีกนอกบ้าน
มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล เผยว่า “พวกเขามีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ ต้องการแข่งขันให้ดีที่สุด ความพยายามของพวกเขาไม่มีใครสงสัยได้ แต่ผลลัพธ์นั้นเหนือความคาดหมาย ผมรู้สึกมีความสุขมาก โดยเฉพาะกับวิธีการเล่นและความมุ่งมั่นของทีม“
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ตัดสินใจใช้นโยบายหมุนเวียนผู้เล่นอย่างหนักในเกมเยือนนัดแรกจาก 3 นัดในรอบ 6 วัน ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่แตกต่างออกไปจากเดิม อย่างไรก็ตาม การกลับมาของเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ ดิโอโก้ โชต้า จากอาการบาดเจ็บ ถือเป็นจังหวะที่ลงตัวพอดีที่จะช่วยเติมพลังให้กับการลุ้นแชมป์ของลิเวอร์พูลอีกครั้ง โดยทั้งคู่ต่างก็ยิงประตูได้ในเกมที่สนามเครเวน คอทเทจ
ประเด็นที่ 2 โมเยส ‘อับอาย’ โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
เดวิด มอยส์ พยายามปัดเป่าข่าวลือเรื่องอนาคตของเขาที่เวสต์แฮม หลังจากแพ้คริสตัล พาเลซ 5-2 ในเกมวันอาทิตย์ สร้างแรงกดดันให้กับกุนซือที่ “รู้สึกอับอาย” ลูกทีมของมอยส์เสียไป 4 ประตูใน 31 นาทีแรกของเกมที่ไร้สปิริตที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ค โดย ไมเคิล โอลิเซ่, เอเบเรชี่ อิเซ่, ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า และเอเมอร์สัน ยิงลูกเข้าประตูตัวเองจนแฟนบอลเวสต์แฮมช็อก
ผู้จัดการทีม เวสต์แฮม ม็อยส์ กำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักมาตลอดทั้งฤดูกาลนี้ เนื่องจากแฟนบอลไม่พอใจกับแทคติกการเล่นที่เน้นรับมากเกินไป ความพ่ายแพ้ล่าสุดของ เวสต์แฮม (อันดับ 8) ส่งผลกระทบต่อโอกาสลุ้นไปบอลยุโรป ต่อเนื่องจากที่เพิ่งตกรอบ ยูโรปา ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ให้กับ บาเยิร์น เลเวอร์คูเซ่น ด้วยฟอร์มการเล่นแบบนี้ ทำให้ตำแหน่งของ ม็อยส์ ในสโมสรอาจอยู่ได้ไม่ยืนยาว
“ครึ่งแรกเป็นฟอร์มการเล่นที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เล่นแบบนี้ในพรีเมียร์ลีกไม่ได้ เราสู้ไม่ได้เลย อธิบายเป็นคำพูดก็ยากจริง ๆ“ เขากล่าว “พูดตามตรง รู้สึกอายที่ต้องมานั่งแถลงผลงานแทนทีมแบบนี้ แต่นี่คือหน้าที่ของผมในฐานะผู้จัดการทีม“
ประเด็นที่ 3 ฟอเรสต์ โกรธ และถูกเยาะเย้ย
สถานะในพรีเมียร์ลีกของฟอเรสต์ยังคงอยู่ในอันตราย เนื่องจากพวกเขานำหน้าทีมโซนตกชั้นเพียงแต้มเดียว ทีมเยือนรู้สึกไม่พอใจอย่างมากหลังจากคำร้องขอจุดโทษสามครั้งถูกปฏิเสธไปอย่างน่าเสียดายที่กูดิสันพาร์ค
สโมสรฟอเรสต์ออกแถลงการณ์ผ่านโซเชียลมีเดียที่รุนแรง ระบุว่าการตัดสินของกรรมการ VAR นั้นลำเอียงเพราะเขาเชียร์ลูตัน คู่แข่งร่วมหนีตกชั้น ฟอเรสต์ไม่ใช่สโมสรพรีเมียร์ลีกแรกที่ออกมาแถลงการณ์วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของกรรมการในฤดูกาลนี้
ลิเวอร์พูลและอาร์เซนอล แสดงความไม่พอใจต่อผลการแข่งขันหลังจากพ่ายแพ้ให้กับท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ และนิวคาสเซิล ตามลำดับ แต่การตั้งคำถามถึงความยุติธรรมของพรีเมียร์ลีก อาจสร้างผลเสียต่อพวกเขาเอง
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมในพรีเมียร์ลีก ตัดสินใจจ้าง มาร์ค แคลทเทนเบิร์ก อดีตกรรมการชื่อดัง มาเป็นที่ปรึกษา เพื่อต่อสู้กับคำตัดสินที่พวกเขาเชื่อว่าไม่เป็นธรรมต่อสโมสร
อย่างไรก็ตาม แกร์รี เนวิลล์ อดีตกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ แคลทเทนเบิร์ก และเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งแยกตัวออกจากคำพูดของสโมสร