พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เวทีลูกหนังประลองฝีเท้าของเหล่าสุดยอดนักเตะจากทั่วโลก

ยินดีต้อนรับสู่โลกของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นับเป็นหนึ่งในลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากทั่วโลก ที่เป็นเวทีลูกหนังประลองฝีเท้าของเหล่าสุดยอดนักเตะ บทความนี้เราขำนำเสนอการนับคะแนน กติกาในสนามฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นคู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับแฟนบอลยุคใหม่ และเรายังรวบรวมทีมแชมป์ตั้งตั้งปี 1992 จนถึงปีปัจุบันมาฝากกันด้วย พร้อมหรือยังที่ทุกท่านย้อนรอย 32 ปีแห่งตำนาน ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ทุกซีซั่น

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เวทีลูกหนังประลองฝีเท้าของเหล่าสุดยอดนักเตะจากทั่วโลก

พรีเมียร์ลีกอังกฤษ หรือชื่อเต็มว่า เอฟเอ พรีเมียร์ลีก  หรือชื่อเต็มว่า “The Football Association Premier League” ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 ถือเป็นลีกฟุตบอลอาชีพสูงสุดในระบบลีกฟุตบอลอังกฤษ เปรียบเสมือนเวทีลูกหนังประลองฝีเท้าของเหล่าสุดยอดนักเตะจากทั่วโลก เต็มไปด้วยสีสัน ความตื่นเต้น และความดราม่า

อะไรคือปัจจัยที่ทำให้พรีเมียร์ลีก ครองใจแฟนบอลทั่วโลก? 

ในบรรดาลีกฟุตบอลอาชีพมากมายทั่วโลก พรีเมียร์ลีกของอังกฤษ (Premier League) โดดเด่นขึ้นมาเป็นหนึ่งในลีกที่ได้รับความนิยมสูงสุด ดึงดูดแฟนบอลจากทุกมุมโลกให้ติดตามอย่างเหนียวแน่น อะไรคือปัจจัยที่ทำให้พรีเมียร์ลีกกลายเป็น “อาณาจักรลูกหนัง” ที่ครองใจแฟนบอลทั่วโลก? 

การนับคะแนนพรีเมียร์ลีก คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับแฟนบอลยุคใหม่

แต่ก่อนที่จะดิ่งลึกลงไปในสนามหญ้าสีเขียว เรามาทำความเข้าใจการนับคะแนนพรีเมียร์ลีก หัวใจสำคัญของการลุ้นแชมป์ ลุ้นโควตา และลุ้นหนีตายกันก่อนดีกว่า และเรามีคู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับแฟนบอลยุคใหม่มาฝากกัน

1. คะแนน: พื้นฐานของตาราง

• ทีมที่ ชนะ จะได้รับ 3 คะแนน
• ทีมที่ เสมอ จะได้รับ 1 คะแนน
• ทีมที่ แพ้ จะไม่ได้รับคะแนน

2. ผลต่างประตูได้เสีย: ตัวแปรสำคัญ

• ผลต่างประตูได้เสีย คือ ผลต่างระหว่าง ประตูที่ยิงได้ กับ ประตูที่เสีย
• ทีมที่มีผลต่างประตูได้เสียดีกว่า จะอยู่อันดับเหนือกว่า

3. เฮด-ทู-เฮด

• เฮด-ทู-เฮด คือ ผลการแข่งขันระหว่างสองทีมที่เจอกันเอง
• หากสองทีมมีคะแนน ผลต่างประตูได้เสีย และประตูได้เท่ากัน เฮด-ทู-เฮด จะถูกนำมาใช้ตัดสิน

4. อันดับ

• อันดับ: ทีมที่มีคะแนนมากที่สุดจะอยู่อันดับสูงสุด
• การตกชั้น: 3 ทีมที่มีคะแนนน้อยที่สุดจะตกชั้นไปเล่นใน EFL แชมเปียนชิพ

กติกาในสนามฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ขึ้นชื่อเรื่องความดุดัน เข้มข้น เต็มไปด้วยกลยุทธ์ และแน่นอน กฎกติกาในสนามที่แฟนบอลหน้าใหม่ควร เพื่ออรรถรสในการเชียร์ที่เต็มอิ่ม เราจะพาคุณท่องไปในโลกของกติกา เจาะลึกกลยุทธ์ แล้วมาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้าสู่สนามแห่งศึกฟาดแข้งกัน

1. ขนาดสนามและอุปกรณ์

สนามฟุตบอลพรีเมียร์ลีกมีขนาดมาตรฐาน ยาว 105 เมตร กว้าง 68 เมตร ประตูมีขนาดสูง 2.44 เมตร กว้าง 7.32 เมตร

2. รูปแบบการแข่งขัน

พรีเมียร์ลีกมี 20 สโมสร แข่งขันแบบพบกันหมด 2 รอบ (เหย้า-เยือน) รวม 38 นัด ทีมที่มีคะแนนสูงสุดจะเป็นแชมป์ 3 ทีมสุดท้ายจะตกชั้นสู่ลีกแชมเปียนชิพ

3. ผู้เล่น

แต่ละทีมมีผู้เล่น 11 คน ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู กองหลัง กองกลาง และกองหน้า แต่ละตำแหน่งมีบทบาทสำคัญแตกต่างกัน

4. ระยะเวลาการแข่งขัน

แข่งขัน 90 นาที แบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 45 นาที และมีการทดเวลาบาดเจ็บในช่วงท้ายครึ่งแรกและครึ่งหลัง ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกม

5. กฎกติกาเพิ่มเติม

• ล้ำหน้า: เกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นฝ่ายรุกอยู่ใกล้เส้นประตูฝ่ายตรงข้ามมากกว่าลูกบอลและผู้เล่นฝ่ายรับคนสุดท้าย 2 คน ในขณะที่บอลถูกส่งมา
• แฮนด์บอล: เกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นสัมผัสลูกบอลด้วยมือโดยเจตนา
• ฟาวล์: เกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นทำผิดกติกา เช่น เข้าปะทะรุนแรง ดึงเสื้อ หรือเตะบอลออกนอกสนาม
• ใบเหลือง: เป็นการตักเตือนผู้เล่นที่ทำฟาวล์
• ใบแดง: เป็นการไล่ออกผู้เล่นที่ทำฟาวล์รุนแรง หรือได้รับใบเหลืองใบที่สอง
• จุดโทษ: เกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นฝ่ายรุกถูกทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ฝ่ายรุกจะได้รับสิทธิ์ยิงจุดโทษ
• การทดเวลาบาดเจ็บ: เป็นการเพิ่มเวลาการแข่งขันในช่วงท้ายเกม เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปจากเหตุการณ์ต่าง ๆ

รวม 4 กติกาอัปเดตใหม่ พรีเมียร์ลีก ห้ามทำอะไรบ้าง

ใหม่แห่งวงการบอลโลก มาพร้อม 4 กติกาอัปเดตใหม่ พรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุดได้มีการปรับเปลี่ยน เพิ่มความเข้มงวดให้เข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม แต่จะมีสิ่งไหนเปลี่ยนแปลง หรือห้ามทำอะไรในขณะการแข่งขันบ้าง ตามไปดูกันเลย

เป็นหนึ่งภาพที่คุ้นตาเมื่อเกิดการทำฟาวล์ หรือการเข้าสกัดฟุตบอลอย่างรุนแรง คือการที่นักเตะจะรวมตัววิ่งเข้ามารุมพร้อมการประท้วงผู้ตัดสินเพื่อให้แจกใบเหลือง-ใบแดง หรือเรียกว่าลงโทษผู้เล่นที่ทำฟาวล์ แต่ในฤดูกาลนี้นั้นจะไม่สามารถทำแบบนั้นได้แล้ว หากมีการรวมตัวรุมประท้วงผู้ตัดสินที่มากกว่า 1 คน ผู้ตัดสินจะสามารถแจกใบเหลืองได้เลยทันที เช่นเดียวกับการตะโกนเสียงดังให้ผู้ตัดสินทำการแจกใบเหลือง-ใบแดงให้กับคู่แข่ง คนที่เสียงดังจะเป็นคนโดนเสียเอง 

นอกจากนี้ แม้ผู้เล่นจะไม่ได้เข้าไปประท้วงผู้ตัดสินแต่แสดงอาการคล้ายกันไม่พอใจ บ่น ด่าทอด้วยถ้อยคำที่ฟังแล้วหยาบคาย หากผู้ตัดสินพบเห็นหรือมีการได้ยินสามารถแจกใบเหลืองให้กับผู้เล่นได้เช่นกัน ส่วนการเข้าพูดคุยหรือขอคำอธิบายจากผู้ตัดสินนั้นยังสามารถทำได้อยู่ แต่จะต้องส่งตัวแทนไปพูดคุยเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น 

กฎอัปเดตใหม่นี้ยังส่งผลไปถึงผู้จัดการทีม และเหล่าทีมสตาฟที่อยู่ขอบสนามด้วย หากผู้จัดการทีมโวยวาย รวมถึงแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสม หรือเข้ามารุมประท้วงผู้ตัดสินที่ 4 มีสิทธิ์ถูกใบเหลือง-ใบแดงได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ในเขตพื้นที่เทคนิคขอบสนาม จะมีผู้จัดการทีมสามารถยืนกำกับได้เพียงคนเดียวเท่านั้น หากมีทีมงานอื่น ๆ เข้ามายืนร่วมด้วยก็มีสิทธิ์ที่จะโดนใบเหลืองได้ทันที 

ปกติการทดเวลาบาดเจ็บนั้นจะนับหลัก ๆ เฉพาะเหตุการณ์ที่ทำให้เกมต้องหยุดทันที เช่น นักเตะบาดเจ็บจำเป็นต้องรับการปฐมพยาบาล แต่ในฟุตบอลโลก 2022 ได้มีการคิดคำนวณการทดเวลาบาดเจ็บใหม่ โดยจะรวมระยะเวลาอื่น ๆ เพิ่มเข้าไปด้วย ได้แก่ การเปลี่ยนตัว (จากปกติกรรมการจะบวกเพิ่ม 30 วินาที) ที่จะบวกเวลาตามจริงเพื่อป้องกันการถ่วงเวลา, การปาร์ตี้หลังจากการยิงประตูได้ และเหตุการณ์อื่น ๆ ร่วมด้วย ซึ่งฤดูกาลนี้ Premier League อังกฤษจึงได้นำเอากฎนี้มาใช้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้การทดเวลาบาดเจ็บยาวนานขึ้นมากกว่าเดิม 

เพื่อให้การแข่งนั้นแต่ละครั้งสามารถไหลลื่นมากยิ่งขึ้น และลดการหยุดของการแข่งนั้นที่อาจเกิดขึ้นมากเกินไป ผู้ตัดสินจะปล่อยเกมมากกว่าที่เคยหากมีการเข้าปะทะ ทำฟาวล์ที่ไม่ได้รุนแรง สกัล หรือจะเป็นจังหวะสำคัญเพื่อลุ้นทำประตู อย่างเช่น การเบียดไหล่ชนไหล่ กระแทกหรือชนกันผู้ตัดสินจะปล่อยให้เล่นต่อยาว ๆ โดยไม่มีการเป่าฟาวล์ให้ ส่วนการทำฟาวล์ที่มีความรุนแรง จะเข้าสกัดในจังหวะสำคัญก็ยังคงถูกลงโทษแจกใบเหลือง-ใบแดงอยู่เช่นเดิม 

พาทุกท่านย้อนรอย 32 ปีแห่งตำนาน ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ทุกซีซั่น

พรีเมียร์ลีก ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 เปลี่ยนโฉมหน้าวงการฟุตบอลอังกฤษไปตลอดกาล และเราจะพาทุกท่านย้อนรอย 32 ปีแห่งตำนาน ไปพบกับเหล่า “ผู้พิชิตบัลลังก์” ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกทุกซีซั่น

1. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (13 สมัย)

2. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (7 สมัย)

3. เชลซี (5 สมัย)

4. อาร์เซนอล (3 สมัย)

5. แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (1 สมัย)

6. เลสเตอร์ ซิตี้ (1 สมัย)

7. ลิเวอร์พูล (1 สมัย)

ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบทีมไหม คู่ไหน อย่ารอช้าที่จะเข้ามาร่วมชมการแข่งขันและส่งแรงใจผ่านเสียงเชียร์ของคุณผ่านระบบเรียลไทม์ ซึ่งตารางคะแนน Premier League ณ ตอนนี้ค่อนข้างจะดุเดือดและเข้มงวด เพราะหลาย ๆ ทีมคะแนนยังคงเชือดเฉือนกันอยู่ ตลอดจนกว่าการแข่งขันครั้งนี้จะสิ้นสุดลงทุกทีมก็ยังคงมีโอกาสที่จะขึ้นมาอยู่ในอันดับต้น ๆ ดังนั้นเข้ามาร่วมส่งกำลังใจกับทีมที่คุณรักไปพร้อมกับเราผ่าน ballsodpantip กันเถอะ

• Facebook
• X
• Line