มาแล้วข่าวเด็ดวันนี้ เบลลิงแฮม ทีมอังกฤษทำให้ผู้ชมเป็นเสียงเดียวว่าไม่น่าเชื่อในการคว้าแชมป์ยูโร โดยเกมนี้ทีมเต็งแชมป์ยุโรป บุกกดดันตั้งแต่ครึ่งแรก ทำเอาคอบอลลุ้น อย่างไรก็ตาม ผลสกอร์จะเป็นอย่างไร และมีเหตุการณ์อะไรในการแข่งขันครั้งนี้ ต้องตามไปดูพร้อมกันเลย
เบลลิงแฮมทำให้อังกฤษไม่น่าเชื่อในการคว้าแชมป์ยูโร
เบลลิงแฮมทีมอังกฤษคว้าชัยชนะเหนือเซอร์เบีย 1-0 ในเกมแรกของยูโร 2024 ณ สนามเฟลทินส์-อารีนา เมืองเกลเซนเคียร์เชิน ประเทศเยอรมนีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนาคม 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลให้อังกฤษครองแชมป์อันดับหนึ่งของกลุ่มซีด้วย 3 คะแนน
บรรยากาศที่สร้างโดยแฟนบอลทั้งสองทีมชาติ ซึ่งมีการปะทะกันเล็กน้อยหลายจุดทั่วเมือง เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกมวันอาทิตย์ที่สนามเฟลทินส์-อารีน่า ในเมืองเกลเซนเคียร์เชน ส่งผลให้เกิดการปะทะกันระหว่างนักเตะในช่วงนาทีแรกของการแข่งขัน
ทีมเต็งแชมป์ยุโรป บุกกดดันตั้งแต่ครึ่งแรก พุ่งลุ้นโหม่งประตูชัยได้อย่างยอดเยี่ยม
สิงโตคำราม บุกกดดันสูงตั้งแต่ครึ่งแรก และสร้างโอกาสหลายครั้งเพื่อพิสูจน์ตัวเองในฐานะทีมเต็งแชมป์ยุโรป แกเร็ท เซาท์เกต รู้สึกกดดันน้อยลงหลังจาก จู๊ด เบลลิงแฮมดาวรุ่งจากเรอัล มาดริด พุ่งลุ้นโหม่งประตูชัยได้อย่างยอดเยี่ยมของบูกาโย ซากาปีกขวาจากอาร์เซน่อล
ผู้มาเยือนครองเกมได้อย่างสบายในช่วง 45 นาทีแรก ถึงแม้จะมีจังหวะลุ้นระทึกจากฝั่งเซอร์เบียอยู่บ้าง โอกาสทองของเซอร์เบียมาในนาทีที่ 21 เมื่ออันดริยา ซิฟโควิช ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของแนวรับคู่แข่ง และโยนบอลให้กับ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ที่อยู่ในพื้นที่แคบ ผู้เล่นอัลฮิลาล มีโอกาสทองที่จะพลิกเกมกลับ แต่เขายิงบอลไปไม่ตรงกรอบ ของ จอร์แดน พิคฟอร์ด
ลูกทีม เซาธ์เกต ไร้ผลพยายามขยายสกอร์ ยิงในนาทีที่ 30 ไม่สำเร็จ
ฝ่ายรองพยายามไม่ให้ทีมอังกฤษครองเกม แต่การหยุดยั้งพวกเขาก็เป็นงานที่ยากลำบาก ลูกทีมของเซาธ์เกตยังคงสร้างโอกาสที่จะขยายสกอร์ในช่วงครึ่งแรก แต่ความพยายามของพวกเขาก็ไร้ผล ถึงขนาดที่ยิงประตูที่สองจากฟรีคิกที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยิงในนาทีที่ 30 ไม่สำเร็จ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาเข้าสู่ช่วงพักครึ่งโดยนำอยู่ 1-0
เซอร์เบียเริ่มต้นครึ่งหลังได้อย่างแข็งแกร่ง พวกเขาพร้อมที่จะพลิกสถานการณ์ในเกมนี้ พวกเขาลงสนามด้วยการบุกโหมโรงเพื่อที่จะตามตีเสมอ ดุซาน วลาโฮวิช เกือจะได้ประตูในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่ทีมชาติอังกฤษไม่ยอมให้อีกฝ่ายกลับเข้าสู่เกม
ฟิลิป มลาดิโนวิช แย่งบอลได้สำเร็จ ปะทะ เคียรัน ทริปเปียร์ล้ม แต่ไม่เป่าฟาวล์
ดราแกน สตอยโควิช เกือที่จะได้ประตูตีเสมอ เมื่อฟิลิป มลาดิโนวิช แย่งบอลจากจอน สโตนส์ ได้สำเร็จและผ่านบอลให้กับ มิโตรวิช ซึ่งจังหวะนี้ถูก เคียรัน ทริปเปียร์ ปะทะล้มลงไป บรรดาเจ้าภาพเรียกร้องจุดโทษแต่ ดานิเอเล ออร์ซาโต ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าฟาวล์
จอร์แดน พิกฟอร์ด กลายเป็นฮีโร่ด้วยการเซฟประตูช็อตเหลือเชื่อของ วลาโฮวิช ช่วยให้ทีมกลับเข้าสู่เกม ดุซาน ทาดิช ที่ลงมาสร้างความอันตรายทันทีหลังถูกเปลี่ยนตัวลงในนาทีที่ 61 ยังสร้างความอันตรายจากลูกเตะมุม แต่แฮร์รี่ เคน ยืนป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยรักษาผลการแข่งขันให้อังกฤษ
อังกฤษนำเป็นจ่าฝูง ด้วย 3 คะแนน ขณะที่เซิร์เบียมี 0 คะแนน ช่วง 45 นาทีสุดท้าย
การตอบโต้ของเซอร์เบียอย่างต่อเนื่องทำให้สิงโตคำรามรู้สึกกังวลในช่วงนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน แต่ความพยายามของพวกเขาก็ไม่เพียงพอที่จะหยุดผู้มาเยือน อังกฤษนำเป็นจ่าฝูงกลุ่ม C ด้วย 3 คะแนน ขณะที่เซิร์เบียรั้งอันดับสุดท้ายด้วย 0 คะแนน แม้จะมีโอกาสลุ้นประตูในช่วง 45 นาทีสุดท้าย
